เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนกลายเป็นเหมือนปัจจัยที่ห้าของสิ่งมีชีวิตอย่างเราไปแล้ว ส่วนมากผู้คนสมัยนี้ก็มักจะเสพสื่อหรือข่าวสารต่างๆผ่านทางสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกันทั้งนั้นเนื่องจากสะดวกหยิบง่ายสามารถดูได้ทุกที่ทำให้เปอร์เซ็นต์การดูโทรทัศน์ลดลงจริงหรือไม่ ทางเราขอบอกว่าเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ถึงขนาดที่ เด็กเจนใหม่ไม่ดูทีวี เลย โดยมีการสำรวจคนเจนต่างๆทั่วประเทศโดยสุ่มสำรวจ 10,000 ครอบครัวจากกสทช. ถึงความต้องการในการดูโทรทัศน์ของคนในช่วงวัยต่างๆในครอบครัว ยิ่งเด็กเจนใหม่ๆจะดูโทรทัศน์น้อยลงแต่ไปดูรายการผ่านทางสมาร์ทโฟนแทน แต่สิ่งที่ยังคงฮิตติดกันทุกบ้านยิ่งกว่าสมาร์ทโฟนก็คือเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ดิจิตอลเพราะส่วนมากแล้วไม่ว่าจะออกไปทำธุระนอกบ้านหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นสุดท้ายก็ต้องกลับมาที่บ้าน ดังนั้นกล่องรับสัญญาณทีวีตีตลาดแตกมาก เด็กเจนใหม่ไม่ดูทีวี แล้วดูอะไรกันวันละกี่ชั่วโมง จากผลการสำรวจพบว่าคนส่วนมากจะดูคลิปหรือดูทีวีประมาณสองถึงสี่ชั่วโมงต่อวัน และช่วงมีการดูคลิปภาพเคลื่อนไหวหรือดูทีวีมากที่สุดคือช่วงหกโมงเย็นถึงสี่ทุ่มนับได้เป็น 70% ของทั้งหมดเลยทีเดียว สาเหตุที่มีการดูทีวีเลยส่งเยอะเนื่องจากเป็นช่วงเวลาหลังเลิกงานกลับมาบ้านเป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลาย ช่วงเวลาที่มีการดูทีวีน้อยที่สุดเป็นช่วงหลังตีสองเป็นต้นไปถึงหกโมงเช้าเนื่องจากมักเป็นเวลาพักผ่อนของพวกเรานั่นเอง ส่วนพวกรายการทีวีตามตารางหรือรายการสดต่างๆ มักจะเป็นช่วง 40 ปีขึ้นไปจนถึงอายุ 70-80 ส่วนคนที่อายุน้อยกว่านั้นมักจะดูเป็นรายการสดบ้างย้อนหลังบ้างแล้วแต่ตามสะดวก ดูรายการอะไรกัน ช่องกลุ่มอายุเจนแซดคือตั้งแต่ 23…

ถ้าจะให้กล่าวถึง โทรทัศน์ นั้นแล้วละก็นึกถึงความหน้าตื่นตาตื่นใจในการที่ได้เห็นภาพเคลื่อนไหวได้มีคนหรือสิ่งของอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมถือว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากในยุคนึง นั่นก็เพราะว่าในยุคก่อนที่มีแค่เพียงรูปถ่ายหรือวาดก็เพียงเท่านั้นการที่ได้เห็นสิ่งใดๆที่อยู่ในนั้นเคลื่อนไหวได้เหมือนได้ดูอยู่ตรงหน้าเลยเป็นความรู้สึกที่อาจจะถ่ายทอดออกมาให้คนเข้าใจนั้นคงยากเนื่องด้วยสมัยนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปจากเดิมมากหลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออกวันนี้เลยจะเอาประวัติของโทรทํศน์มาเล่าสู่กันให้ฟัง การเริ่มต้นของโทรทัศน์ขาวดำ ในยุคก่อนที่จะมี โทรทัศน์ นั้นอย่างที่หลายคนรู้ก็จะมีวิทยุและก็เครื่องเล่นเสียงมาก่อน แล้วเมื่อเกิดการพัฒนาเป็นโทรทัศน์ขึ้นมา แต่ว่าในตอนนั้นมีเพียงแค่ทีวีที่มีภาพขาวดำเท่านั้น เราอาจจะพูดได้ว่าความคมชัดนั้นมั้ยน้อยซะเหลือเกินเพราะในสมัยก่อนนั้นการรับส่งคลื่นก็ยังเป็นแบบอะนาล็อคแล้วการมีทีวีนั้นก็ห่างไกลจากความเป็นจริงเหลือเกินเพราะยังไม่ค่อยได้รับความนิยมกันแพร่หลายจนกระทั่งเริ่มพัฒนากลายเป็นทีวีสีที่มีความชัดเจนมากขึ้นแล้วก็นิยมกันในคนหมู่มาก ในยุคที่เรียกว่าโทรทัศน์ดิจิตอล เมื่อมีการพัฒนา โทรทัศน์ ไปมากมายก็เกิดเป็นการเปลี่ยนแปลงของการใช้งานมากเลย เพราะในทุกบ้านก็จะมีทีวีอยู่ติดบ้านการรับชมหรือรับฟังข่าวสารต่างๆก็สามารถทำได้ดีมากขึ้น เนื่องการส่งข้อมูลในระบบเก่าทำได้ไม่ดีนักการเปลี่ยนเป็นระบบใหม่นี้ก็สามารถทำให้ช่องรับชมนั้นได้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่รับได้อยู่ร้อยช่องโดยประมาณเปลี่ยนเป็นมากกว่าห้าร้อยช่องเลยทีเดียว ในยุคนี้ถือว่าการตอบสนองกับความต้องการได้ดีเลยทีเดียว มาถึงยุค โทรทัศน์ ไอพีทีวี ในการพัฒนาของ โทรทัศน์ ไอพีทีวีนั้นจะมีการเปลี่ยนไปโดยที่ทีวีนี้จะสามารถทำอะไรได้มากมายหลายอย่างที่ทีวีก่อนๆทำไม่ได้มากเลยอย่างเช่นการหาสิ่งของหรือการใช้บริการต่างๆผ่านทีวีอาจจะบอกได้ว่าเป็นได้ตามที่ต้องการเลย การส่งสัญญาณนั้นก็ชัดกว่ารุ่นก่อนแทบจะเทียบไม่ติดเลยด้วยการพัฒนาต่อไปอย่างไม่มีหยุดเราก็อาจจะไม่สามารถนึกออกเลยก็ได้ว่าหลังจากนี้จะมีสิ่งไหนของทีวีที่ทำให้เราแปลกใจได้มากขึ้นอีก